เมนู

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นกกระทาได้ให้ลิงกับช้าง สมาทานศีลห้าและ
ตนเองก็ประพฤติสมาทานในศีลห้า สัตว์ทั้งสามมีความเคารพรพยำเกรงกัน มีความ
ประพฤติกลมเกลียวกันอยู่ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก ได้เข้าถึงสุคติ-
โลกสวรรค์ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายวัตรจริยานี้แล ได้ชื่อว่าติตติริยพรหมจรรย์.
[263] คนเหล่าใด ฉลาดในธรรม
ประพฤติอ่อนน้อมต่อท่านผู้ใหญ่ ย่อมเป็นผู้
อนัมหาชนสรรเสริญในปัจจุบันนี้ ทั้งสม-
ปรายภพขอคนเหล่านั้นเป็นสุคติแล.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แท้จริงสัตว์นั้นเป็นดิรัจฉาน ยังมีความ
เคารพยำเกรงกัน มีความประพฤติกลมเกลียวกันอยู่ การที่พวกเธอเป็นบรรพชิต
ในธรรมวินัยที่เรากล่าวดีแล้วอย่างนี้ มีความเคารพยำเกรงกัน มีความประพฤติ
กลมเกลียวกันอยู่ นั้นจะพึงงามในธรรมวินัยนี้โดยสแท้
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การกระทำของโมฆบุรุษเหล่านั้นนั่น ไม่เป็นไป
เพื่อความเลื่อมใสของงชุมชนที่ยังเลื่อมใส . . . ครั้นแล้วทรงทำธรรมีกถา
รับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตการกราบไหว้ การ
ลุกรับ การทำอัญชลีกรรม การทำสามีจิกรรม อาสนะที่เลิศ น้ำอันเลิศ
บิณฑบาตอันเลิศ ตามลำดับผู้แก่กว่า อนึ่ง ภิกษุไม่ควรเกียดกันเสนาสนะของ
สงฆ์ตามลำดับผู้แก่กว่า รูปใดเกียดกัน ต้องอาบัติทุกกฎ.

บุคคลที่ไม่ควรไหว้ 10 จำพวก


[264] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล 1 จำพวกนี้ อันภิกษุไม่ควร
ไหว้ คืออันภิกษุผู้อุปสมบทก่อนไม่ควรไหว้ภิกษุผู้อุปสมบทภายหลัง 1 ไม่ควร
ไหว้ อนุปสัมบัน 1 ไม่ควรไหว้ภิกษุนานาสังวาสผู้แก่กว่า แต่ไม่ใช่ธรรมวาที 1

ไม่ควรไหว้มาตุคาม 1 ไม่ควรไหว้บัณเฑาะก์ 1 ไม่ควรไหว้ภิกษุผู้อยู่ปริวาส 1
ไม่ควรไหว้ภิกษุผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม 1 ไม่ควรไหว้ภิกษุผู้ควรมานัต 1
ไม่ควรไหว้ภิกษุผู้ประพฤติมานัต 1 ไม่ควรไหว้ภิกษุผู้ควรอัพภาน 1
บุคคล 10 จำพวกนี้แล อันภิกษุไม่ควรไหว้.

บุคคลที่ควรไหว้ 3 จำพวก


ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล 3 จำพวกนี้ ภิกษุควรไหว้ คือภิกษุผู้
อุปสมบทภายหลัง ควรไหว้ภิกษุผู้อุปสมบทก่อน 1 ควรไหว้ภิกษุนานาสังวาส
ผู้แก่กว่า แต่เป็นธรรมวาที 1 ควรไหว้ตถาคตผู้อรหันต์ตรัสรู้เองโดยชอบ
ในโลกทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์
เทวดาและมนุษย์.
บุคคล 3 จำพวกนี้แล ภิกษุควรไหว้

เรื่องเกียดกันเสนาสนะของสงฆ์


[265] สมัยนั้น ชาวบ้านตกแต่งมณฑป จัดแจงเครื่องลาดแผ้วถาง
สถานที่ไว้เฉพาะสงฆ์ ภิกษุอันเตวาสิกของพระฉัพพัคคีย์กล่าวว่า พระผู้มี
พระภาคเจ้าทรงอนุญาตเสนาสนะตามลำดับผู้แก่กว่า เฉพาะของสงฆ์เท่านั้น
ของเหล่านี้เขาไม่ได้ทำเจาะจงไว้ จึงรีบไปก่อนภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็น
ประมุข จองมณฑป จองเครื่องลาด จองสถานที่ไว้ว่า นี้สำหรับอุปัชฌาย์
ของพวกเรา นี้สำหรับอาจารย์ของพวกเรา นี้สำหรับพวกเรา ครั้นท่าน
พระสารีบุตรไปล้าหลังภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข เมื่อภิกษุเหล่านั้น
จองมณฑป จองเครื่องลาด จองสถานที่หมดแล้ว หาที่ว่างไม่ได้ จึงนั่งอยู่
ณ โคนไม้แห่งหนึ่ง ครั้นเวลาปัจจุสสมัยแห่งราตรี พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จ
ลุกขึ้นทรงพระกาสะ แม้ท่านพระสารีบุตรก็กระแอมไอ.